ออกตัวก่อนว่าผมสมัครบัตรผ่านเพื่อกระทู้นี้นะครับ ไม่อยากใช้login เนื่องจากมีคนรู้จักทราบloginผมอยู่พอควร
สวัสดีครับ ออกตัวก่อนว่าปัจจุบันผมอายุ31 แล้ว
ย้อนไปเมื่อ11ปีที่แล้ว ผมมีแฟนคนนึงเด็กกว่าผม2ปี backgroundเราทั้งคู่คือเป็นเด็กตจว เข้ามาเรียนในกทม
ผมอยู่หอพัก ส่วนเธออยู่บ้านญาติ พอเริ่มคบกัน เราก็เลยตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา เรียกได้ว่าไม่มีเพื่อนในกทมเลย
คบกันมาเข้าปีที่3 ผมจับได้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายอีกคน เราทะเลาะกัน เธอร้องขอโอกาสแก้ตัว
และผมก็ยังรักเธอมาก เราจึงให้โอกาสกันและกัน
หลังจากนั้นผมก็จับได้ว่าเธอยังมีความสัมพันธ์กับชายคนนั้นอยู่เรื่อยๆ จับได้ทีก็ทะเลาะกันที แต่ก็มาคืนดีกันทุกครั้ง
เป็นแบบนี้มาตลอดช่วงปีที่3-6 เรียกว่าเป็นช่วง3ปีที่เลวร้ายมากสำหรับผม
อยู่มาวันนึงช่วงกลางปีที่6 เราทะเลาะกันเรื่องนี้เป็นครั้งที่ร้อย เธอมองตาผม และบอกผมว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
เธอจะตัดขาดกับผู้ชายคนนั้นให้ได้ ขอโอกาสเธออีกครั้ง
ผมรับฟัง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เหมือนว่าสามปีที่ผ่านมา ผมฟังประโยคแบบนี้มาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ครั้งนี้เธอทำได้จริง หลังจากทะเลาะกันครั้งนั้นก็ไม่มีเรื่องมากวนใจผมอีกเลย
เหมือนจะดีใช่มั้ยครับ พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง แต่กลับเป็นผมที่รู้สึกต่างออกไป เหมือนหัวใจผมมันชินชา
ผมไม่รู้สึกอยากไปหา ไม่รู้สึกอยากทำให้เธอหัวเราะ ไม่รู้สึกอยากพาเธอไปเที่ยว
ผมใช้เวลาทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่พักใหญ่ๆ และตัดสินใจบอกเลิกเธอในปลายปีที่6 ด้วยเหตุผลว่า ผมไม่รักเธอแล้ว
หลังจากเลิกกัน เธอไม่ยอมรับครับ เธอร้องไห้ ฟูมฟาย พร่ำบ่นว่าทำไมผมทำแบบนี้กับเธอ
ทำไมถึงทิ้งเธอในวันที่เธอไม่เหลือใคร ร้องขอโอกาสให้เธอได้แก้ตัว เธอบอกว่าเธออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผม
แต่ผมก็ยืนยันในสิ่งเดิมครับ ก่อนผมบอกเลิกเธอ ผมคิดมาดีแล้ว ทบทวนมานานแล้ว
ช่วงแรกๆผมยอมรับโทรศัพท์เธอบ้างเวลาเธอโทรมาฟูมฟาย ผมปลอบเธอ ขอโทษเธอ ให้กำลังใจเธอให้เธอก้าวต่อไป
คิดว่าเราคงเป็นเพื่อนกันได้
แต่หลังๆเริ่มไม่ไหวเธอลงมาหาผมเช้าสายบ่ายเย็น (ผมกับเธอทำงานในตึกเดียวกันครับ แต่คนละชั้น คนละบริษัท)
โทรหาผมทุกชั่วโมง ไลน์หาผมทุกนาทีแม้แต่ตอนกลางคืน ทุกๆครั้งจะมีแต่คำตัดพ้อต่อว่า มีแต่เสียงร้องไห้ฟูมฟาย
ผมจึงเริ่มเลี่ยงๆแกล้งไม่อยู่ แกล้งมีประชุมบ้าง รับโทรศัพท์บ้างไม่รับบ้าง ตัดสายทิ้งบ้าง
ผลคือเธอบุกมาฟูมฟายในที่ทำงานผมหนักกว่าเดิม มาดักรอผมที่หน้าคอนโด ยืนรอผมที่ลานจอดรถ
ขับรถตามผม ผมออกไปกินข้าวเธอก็จะโผล่มานั่งกินด้วย ทุกช่วงเวลาที่เจอกัน 80%เธอร้องไห้ตลอด
เป็นแบบนี้อยู่สามเดือน
ผมเริ่มทนไม่ได้ สงสารก็สงสาร แต่จะให้ผมกลับไปคบกับเธอทั้งๆที่ไม่ได้รัก ก็ไม่แฟร์สำหรับทั้งผมและเธอ
ผมเลยตัดสินใจใช้ไม้แข็ง ทั้งพูดทั้งไลน์บอกกับเธอแรงๆ เช่น เราไม่ได้รักเธอแล้ว เราไม่รู้สึกอะไรกับเธอแล้ว
ออกไปจากชีวิตเรา แนะนำให้เธอเข้าวัด ไปพบจิตแพทย์ หรือแม้กระทั่งโกหกเธอว่าผมมีคนอื่นแล้ว
แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สุดท้ายผมตัดสินใจ บล๊อคไลน์ บล๊อคเบอร์เธอ
ผลที่ได้คือแย่กว่าเดิมครับ เธอฟูมฟายหนักกว่าเดิม ยิ่งผมหนีเธอ เธอก็ยิ่งโผล่มาที่ทำงานบ่อยขึ้นๆ
มาร้องไห้ฟูมฟายในที่ทำงานผม คิดดูครับ ที่ทำงานผมเป็นที่สาธารณะ มีคนนอกเดินเข้าเดินออกวันละเกือบร้อยคน
ผมก็โดนเจ้านายด่าสิครับ
ผมลองหลายๆวิธีที่จะทำให้เธอดีขึ้น ให้เธออยู่ได้โดยไม่มีผม
สรุปสุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดคือ รับโทรศัพท์เธอบ้าง โทรมา10สาย รับซักสายนึง
ผมก็จะได้แต่อืมๆๆๆ หาเรื่องวางสาย และก็คอยหลบเลี่ยงเวลาเธออยากเจอ
แต่เธอก็จะไลน์มาเล่านู่นนี่ทุกวันเหมือนตอนเราคบกันครับ เช่นวันนี้ไปไหนมา ทำงานเหนื่อย มีปัญหาเรื่องงาน
อยากเจอ อยากกอด อยากหอม ส่งสติกเกอร์ บอกฝันดี ฯลฯ
ผมเปิดอ่านแต่ไม่เคยพิมพ์ตอบเลยซักครั้ง (เพราะถ้าผมไม่เปิดอ่าน เธอก็จะโทรมาแทน)
วิธีนี้ข้อดีคือทำให้ปัญหาที่ทำงานหมดไป เธอฟูมฟายน้อยลง โผล่มาที่บริษัทและคอนโดน้อยลง
ความถี่ที่โทรมาก็ค่อยๆลดเหลือวันเว้นวัน แต่ข้อเสียคือไม่ได้ทำให้เธอหายไปจากชีวิตผม
หลังจากผมเลิกกับเธอมาได้9เดือน ผมได้รู้จักกับผญคนนึงเป็นเพื่อนของเพื่อน อายุเท่ากับผม เธอชื่อแนน(นามสมมติ)
ช่วงที่ผมจีบแนน ผมคิดอยู่หลายทีว่าจะบอกแนนเรื่องแฟนเก่าที่ยังคาราคาซังนี้ดีมั้ย คิดแม้กระทั่งผมควรจีบแนนมั้ย
ผมตัดสินใจขอแนนเป็นแฟนหลังจากจีบเธอ5เดือน แนนตอบตกลง โดยที่ผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องแฟนเก่าให้แนนฟัง
แต่ปัญหามาหลังจากนั้นครับ หลังจากผมมีแฟนใหม่ เรื่องก็ไปเข้าหูแฟนเก่า
เธอกลับมาฟูมฟายหนักเหมือนตอนเลิกกันวันแรก โทรมาหาแนน ด่าว่าแนนแย่งผมไปจากเธอ
พอแนนเจอแบบนั้น แนนเชื่อสนิทใจว่าตัวเองเป็นมือที่สาม แนนบอกเลิกผมพร้อมคำด่าอีกสามพันคำ
ผมยื้อแนนไว้เต็มที่ครับ ไปขุดเอาchat line และFB เก่าๆตอนผมเลิกกับแฟนเก่าไล่มาจนถึงปัจจุบันให้แนนอ่าน
เพื่อยืนยันว่าผมเลิกกับแฟนเก่านานแล้วตั้งแต่ก่อนจะเจอแนน
ผมอธิบายทุกอย่างให้แนนฟัง ว่าทำไมผมต้องขอรับโทรศัพท์แฟนเก่าบ้าง ขอไม่บล๊อคเบอร์ ขอให้เธอได้ไลน์มา
แนนเข้าใจผม แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าแนนก็ไม่สบายใจเท่าไหร่นัก
แนนจะคอยถามเสมอว่า แฟนเก่ายังโผล่ไปหาผมที่ทำงานบ้างมั้ย แฟนเก่าผมดีขึ้นรึยัง เมื่อไหร่จะตัดใจได้ซักที
ผมก็ตอบแนนตามความจริงทุกอย่างครับ รับโทรศัพท์แฟนเก่าต่อหน้าแนน ให้แนนอ่านไลน์ทุกครั้งที่มีไลน์มา
แรกๆแนนก็อ่าน แต่หลังๆแนนบอกว่าไม่อยากอ่าน ไม่อยากรับรู้ และก็ไม่ค่อยถามถึงแฟนเก่าอีก
ผมกับแนนเรามีความสุขกันดีมากครับ มีทะเลาะกันบ้างตามประสาแฟน แต่ไม่เคยทะเลาะเรื่องแฟนเก่าผม
ตอนนี้ผมคบกับแนนได้3ปีกว่า แฟนเก่าผมก็ยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิต
มีมาดักรอผมที่ลานจอดรถที่ทำงานบ้างประมาณสองเดือนครั้ง ผมได้แต่หันไปยิ้มให้เธอและเดินเลี่ยงเข้าตึกไป
ยังมีไลน์มาหา2-3วันครั้ง โทรมาสัปดาห์ละครั้ง แต่หลังๆมาผมไม่ได้รับสายเธอแล้ว
เคยลองพยายามพูดว่าผมมีแฟนใหม่แล้ว และแฟนผมไม่สบายใจที่ผมยังติดต่อแฟนเก่า ขอให้เธอเลิกติดต่อกับผม
ผลคือเธอร้องไห้ฟูมฟายใส่ผม บอกว่าถ้าผมไม่คุยโทรศัพท์กับเธอ เธอก็จะไปรอเจอรอคุยกับผมที่ทำงานแทน
ซึ่งแนนก็รับรู้เรื่องทั้งหมดเหล่านี้ครับ เธอไม่เคยหาเรื่องทะเลาะ ไม่เคยเอามาเป็นประเด็นโกรธหรือหาเรื่องเลิก
เธอได้แต่บอกว่าเข้าใจสิ่งที่ผมต้องเจอ ให้ผมสู้ๆ
ปัญหาอยู่ตรงที่ เมื่อวานผมเกริ่นๆพูดเรื่องแต่งงานกับแนน
แต่แนนอ้ำอึ้งบอกให้ผมไปจัดการเรื่องแฟนเก่าให้จบก่อนดีกว่ามั้ย แนนไม่มั่นใจ...
ผมอึ้งมาก ผมคิด(เอาเอง)เสมอว่าแนนเข้าใจ และโอเคกับเรื่องนี้
ผมพยายามซักไซ้ถามหาเหตุผล แนนบอกว่าโอเคกับผมทุกๆอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว
ผมจะทำไงดีครับ ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงเมื่อไหร่ ผมก็อยากตัดขาดจาดแฟนเก่าให้ได้
ผมมืดแปดด้านแล้วครับ ผมลองทำมาทุกทางที่ผมนึกออกแล้ว ทั้งลองหายตัวไป ตัดทางติดต่อ พูดดีๆก็แล้ว
จะกลับใช้ไม้แข็งก็กลัวจะกลับไปมีปัญหาฟูมฟายกันอีก กลัวจะโดนนายไล่ออก
ขอคำแนะนำหน่อยครับ
ปล ผมไม่อยากย้ายที่อยู่ ย้ายที่ทำงานนะครับ
ปล2 ผมยืนยันว่า ผมไม่มีใจเหลือให้แฟนเก่าเลยแม้แต่นิดเดียวครับ ไม่มีแม้แต่วูบเดียวที่คิดจะกลับไป
ปล3 ผมไม่อยากปล่อยแนนไป ขอถามมุมมองคุณผู้หญิงด้วย
ว่าถ้าคุณเป็นแนน คุณจะรู้สึกยังไง และทำอย่างไร อยากเลิกกับคนแบบผมมั้ย
เลิกกับแฟนมาแล้ว4ปี แต่แฟนเก่ายังวนเวียนอยู่ในชีวิต ทำให้มีปัญหากับแฟนปัจจุบัน ใครมีวิธีตัดขาดแนะนำหน่อยครับ
สวัสดีครับ ออกตัวก่อนว่าปัจจุบันผมอายุ31 แล้ว
ย้อนไปเมื่อ11ปีที่แล้ว ผมมีแฟนคนนึงเด็กกว่าผม2ปี backgroundเราทั้งคู่คือเป็นเด็กตจว เข้ามาเรียนในกทม
ผมอยู่หอพัก ส่วนเธออยู่บ้านญาติ พอเริ่มคบกัน เราก็เลยตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา เรียกได้ว่าไม่มีเพื่อนในกทมเลย
คบกันมาเข้าปีที่3 ผมจับได้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายอีกคน เราทะเลาะกัน เธอร้องขอโอกาสแก้ตัว
และผมก็ยังรักเธอมาก เราจึงให้โอกาสกันและกัน
หลังจากนั้นผมก็จับได้ว่าเธอยังมีความสัมพันธ์กับชายคนนั้นอยู่เรื่อยๆ จับได้ทีก็ทะเลาะกันที แต่ก็มาคืนดีกันทุกครั้ง
เป็นแบบนี้มาตลอดช่วงปีที่3-6 เรียกว่าเป็นช่วง3ปีที่เลวร้ายมากสำหรับผม
อยู่มาวันนึงช่วงกลางปีที่6 เราทะเลาะกันเรื่องนี้เป็นครั้งที่ร้อย เธอมองตาผม และบอกผมว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
เธอจะตัดขาดกับผู้ชายคนนั้นให้ได้ ขอโอกาสเธออีกครั้ง
ผมรับฟัง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เหมือนว่าสามปีที่ผ่านมา ผมฟังประโยคแบบนี้มาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ครั้งนี้เธอทำได้จริง หลังจากทะเลาะกันครั้งนั้นก็ไม่มีเรื่องมากวนใจผมอีกเลย
เหมือนจะดีใช่มั้ยครับ พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง แต่กลับเป็นผมที่รู้สึกต่างออกไป เหมือนหัวใจผมมันชินชา
ผมไม่รู้สึกอยากไปหา ไม่รู้สึกอยากทำให้เธอหัวเราะ ไม่รู้สึกอยากพาเธอไปเที่ยว
ผมใช้เวลาทบทวนความรู้สึกตัวเองอยู่พักใหญ่ๆ และตัดสินใจบอกเลิกเธอในปลายปีที่6 ด้วยเหตุผลว่า ผมไม่รักเธอแล้ว
หลังจากเลิกกัน เธอไม่ยอมรับครับ เธอร้องไห้ ฟูมฟาย พร่ำบ่นว่าทำไมผมทำแบบนี้กับเธอ
ทำไมถึงทิ้งเธอในวันที่เธอไม่เหลือใคร ร้องขอโอกาสให้เธอได้แก้ตัว เธอบอกว่าเธออยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผม
แต่ผมก็ยืนยันในสิ่งเดิมครับ ก่อนผมบอกเลิกเธอ ผมคิดมาดีแล้ว ทบทวนมานานแล้ว
ช่วงแรกๆผมยอมรับโทรศัพท์เธอบ้างเวลาเธอโทรมาฟูมฟาย ผมปลอบเธอ ขอโทษเธอ ให้กำลังใจเธอให้เธอก้าวต่อไป
คิดว่าเราคงเป็นเพื่อนกันได้
แต่หลังๆเริ่มไม่ไหวเธอลงมาหาผมเช้าสายบ่ายเย็น (ผมกับเธอทำงานในตึกเดียวกันครับ แต่คนละชั้น คนละบริษัท)
โทรหาผมทุกชั่วโมง ไลน์หาผมทุกนาทีแม้แต่ตอนกลางคืน ทุกๆครั้งจะมีแต่คำตัดพ้อต่อว่า มีแต่เสียงร้องไห้ฟูมฟาย
ผมจึงเริ่มเลี่ยงๆแกล้งไม่อยู่ แกล้งมีประชุมบ้าง รับโทรศัพท์บ้างไม่รับบ้าง ตัดสายทิ้งบ้าง
ผลคือเธอบุกมาฟูมฟายในที่ทำงานผมหนักกว่าเดิม มาดักรอผมที่หน้าคอนโด ยืนรอผมที่ลานจอดรถ
ขับรถตามผม ผมออกไปกินข้าวเธอก็จะโผล่มานั่งกินด้วย ทุกช่วงเวลาที่เจอกัน 80%เธอร้องไห้ตลอด
เป็นแบบนี้อยู่สามเดือน
ผมเริ่มทนไม่ได้ สงสารก็สงสาร แต่จะให้ผมกลับไปคบกับเธอทั้งๆที่ไม่ได้รัก ก็ไม่แฟร์สำหรับทั้งผมและเธอ
ผมเลยตัดสินใจใช้ไม้แข็ง ทั้งพูดทั้งไลน์บอกกับเธอแรงๆ เช่น เราไม่ได้รักเธอแล้ว เราไม่รู้สึกอะไรกับเธอแล้ว
ออกไปจากชีวิตเรา แนะนำให้เธอเข้าวัด ไปพบจิตแพทย์ หรือแม้กระทั่งโกหกเธอว่าผมมีคนอื่นแล้ว
แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สุดท้ายผมตัดสินใจ บล๊อคไลน์ บล๊อคเบอร์เธอ
ผลที่ได้คือแย่กว่าเดิมครับ เธอฟูมฟายหนักกว่าเดิม ยิ่งผมหนีเธอ เธอก็ยิ่งโผล่มาที่ทำงานบ่อยขึ้นๆ
มาร้องไห้ฟูมฟายในที่ทำงานผม คิดดูครับ ที่ทำงานผมเป็นที่สาธารณะ มีคนนอกเดินเข้าเดินออกวันละเกือบร้อยคน
ผมก็โดนเจ้านายด่าสิครับ
ผมลองหลายๆวิธีที่จะทำให้เธอดีขึ้น ให้เธออยู่ได้โดยไม่มีผม
สรุปสุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดคือ รับโทรศัพท์เธอบ้าง โทรมา10สาย รับซักสายนึง
ผมก็จะได้แต่อืมๆๆๆ หาเรื่องวางสาย และก็คอยหลบเลี่ยงเวลาเธออยากเจอ
แต่เธอก็จะไลน์มาเล่านู่นนี่ทุกวันเหมือนตอนเราคบกันครับ เช่นวันนี้ไปไหนมา ทำงานเหนื่อย มีปัญหาเรื่องงาน
อยากเจอ อยากกอด อยากหอม ส่งสติกเกอร์ บอกฝันดี ฯลฯ
ผมเปิดอ่านแต่ไม่เคยพิมพ์ตอบเลยซักครั้ง (เพราะถ้าผมไม่เปิดอ่าน เธอก็จะโทรมาแทน)
วิธีนี้ข้อดีคือทำให้ปัญหาที่ทำงานหมดไป เธอฟูมฟายน้อยลง โผล่มาที่บริษัทและคอนโดน้อยลง
ความถี่ที่โทรมาก็ค่อยๆลดเหลือวันเว้นวัน แต่ข้อเสียคือไม่ได้ทำให้เธอหายไปจากชีวิตผม
หลังจากผมเลิกกับเธอมาได้9เดือน ผมได้รู้จักกับผญคนนึงเป็นเพื่อนของเพื่อน อายุเท่ากับผม เธอชื่อแนน(นามสมมติ)
ช่วงที่ผมจีบแนน ผมคิดอยู่หลายทีว่าจะบอกแนนเรื่องแฟนเก่าที่ยังคาราคาซังนี้ดีมั้ย คิดแม้กระทั่งผมควรจีบแนนมั้ย
ผมตัดสินใจขอแนนเป็นแฟนหลังจากจีบเธอ5เดือน แนนตอบตกลง โดยที่ผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องแฟนเก่าให้แนนฟัง
แต่ปัญหามาหลังจากนั้นครับ หลังจากผมมีแฟนใหม่ เรื่องก็ไปเข้าหูแฟนเก่า
เธอกลับมาฟูมฟายหนักเหมือนตอนเลิกกันวันแรก โทรมาหาแนน ด่าว่าแนนแย่งผมไปจากเธอ
พอแนนเจอแบบนั้น แนนเชื่อสนิทใจว่าตัวเองเป็นมือที่สาม แนนบอกเลิกผมพร้อมคำด่าอีกสามพันคำ
ผมยื้อแนนไว้เต็มที่ครับ ไปขุดเอาchat line และFB เก่าๆตอนผมเลิกกับแฟนเก่าไล่มาจนถึงปัจจุบันให้แนนอ่าน
เพื่อยืนยันว่าผมเลิกกับแฟนเก่านานแล้วตั้งแต่ก่อนจะเจอแนน
ผมอธิบายทุกอย่างให้แนนฟัง ว่าทำไมผมต้องขอรับโทรศัพท์แฟนเก่าบ้าง ขอไม่บล๊อคเบอร์ ขอให้เธอได้ไลน์มา
แนนเข้าใจผม แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าแนนก็ไม่สบายใจเท่าไหร่นัก
แนนจะคอยถามเสมอว่า แฟนเก่ายังโผล่ไปหาผมที่ทำงานบ้างมั้ย แฟนเก่าผมดีขึ้นรึยัง เมื่อไหร่จะตัดใจได้ซักที
ผมก็ตอบแนนตามความจริงทุกอย่างครับ รับโทรศัพท์แฟนเก่าต่อหน้าแนน ให้แนนอ่านไลน์ทุกครั้งที่มีไลน์มา
แรกๆแนนก็อ่าน แต่หลังๆแนนบอกว่าไม่อยากอ่าน ไม่อยากรับรู้ และก็ไม่ค่อยถามถึงแฟนเก่าอีก
ผมกับแนนเรามีความสุขกันดีมากครับ มีทะเลาะกันบ้างตามประสาแฟน แต่ไม่เคยทะเลาะเรื่องแฟนเก่าผม
ตอนนี้ผมคบกับแนนได้3ปีกว่า แฟนเก่าผมก็ยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิต
มีมาดักรอผมที่ลานจอดรถที่ทำงานบ้างประมาณสองเดือนครั้ง ผมได้แต่หันไปยิ้มให้เธอและเดินเลี่ยงเข้าตึกไป
ยังมีไลน์มาหา2-3วันครั้ง โทรมาสัปดาห์ละครั้ง แต่หลังๆมาผมไม่ได้รับสายเธอแล้ว
เคยลองพยายามพูดว่าผมมีแฟนใหม่แล้ว และแฟนผมไม่สบายใจที่ผมยังติดต่อแฟนเก่า ขอให้เธอเลิกติดต่อกับผม
ผลคือเธอร้องไห้ฟูมฟายใส่ผม บอกว่าถ้าผมไม่คุยโทรศัพท์กับเธอ เธอก็จะไปรอเจอรอคุยกับผมที่ทำงานแทน
ซึ่งแนนก็รับรู้เรื่องทั้งหมดเหล่านี้ครับ เธอไม่เคยหาเรื่องทะเลาะ ไม่เคยเอามาเป็นประเด็นโกรธหรือหาเรื่องเลิก
เธอได้แต่บอกว่าเข้าใจสิ่งที่ผมต้องเจอ ให้ผมสู้ๆ
ปัญหาอยู่ตรงที่ เมื่อวานผมเกริ่นๆพูดเรื่องแต่งงานกับแนน
แต่แนนอ้ำอึ้งบอกให้ผมไปจัดการเรื่องแฟนเก่าให้จบก่อนดีกว่ามั้ย แนนไม่มั่นใจ...
ผมอึ้งมาก ผมคิด(เอาเอง)เสมอว่าแนนเข้าใจ และโอเคกับเรื่องนี้
ผมพยายามซักไซ้ถามหาเหตุผล แนนบอกว่าโอเคกับผมทุกๆอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว
ผมจะทำไงดีครับ ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงเมื่อไหร่ ผมก็อยากตัดขาดจาดแฟนเก่าให้ได้
ผมมืดแปดด้านแล้วครับ ผมลองทำมาทุกทางที่ผมนึกออกแล้ว ทั้งลองหายตัวไป ตัดทางติดต่อ พูดดีๆก็แล้ว
จะกลับใช้ไม้แข็งก็กลัวจะกลับไปมีปัญหาฟูมฟายกันอีก กลัวจะโดนนายไล่ออก
ขอคำแนะนำหน่อยครับ
ปล ผมไม่อยากย้ายที่อยู่ ย้ายที่ทำงานนะครับ
ปล2 ผมยืนยันว่า ผมไม่มีใจเหลือให้แฟนเก่าเลยแม้แต่นิดเดียวครับ ไม่มีแม้แต่วูบเดียวที่คิดจะกลับไป
ปล3 ผมไม่อยากปล่อยแนนไป ขอถามมุมมองคุณผู้หญิงด้วย
ว่าถ้าคุณเป็นแนน คุณจะรู้สึกยังไง และทำอย่างไร อยากเลิกกับคนแบบผมมั้ย